Last updated: 20 Jan 2023 |
“สิว” (Acne) ปัญหาผิวระดับชาติที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น! เพราะนอกจากจะทำให้หน้าพังแล้ว ยังทำลายความมั่นใจที่มีให้ลดน้อยลงไปทุกที เรียกได้ว่าส่องกระจกทีไรก็ปวดใจทุกครั้ง แถมยังทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูเล่นอีกต่างหาก!
รูปคนเป็นสิว
วันนี้ Merci จะพาทุกคนไปรู้จักต้นตอของปัญหาสิว รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดสิว พร้อมเคล็ดลับจัดการสิวให้อยู่หมัดด้วยวิธีธรรมชาติ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไปดูกันเลย!
จุดกำเนิดของ “สิว”
กลไกการเกิด “สิว” มองผิวเผินเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แท้จริงแล้ว! กลับแฝงไปด้วยกระบวนการสุดซับซ้อนที่เกิดขึ้นใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งทางเราได้สรุปกลไกของการเกิดสิวในแบบฉบับที่เข้าใจง่าย ๆ มาให้ทุกคนแล้ว ซึ่งมีอยู่ 4 Step ด้วยกัน ดังนี้
Step 1 : เริ่มจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากเกินไป หรือที่เรียกว่ากระบวนการ Hyperseborrhea
Step 2 : น้ำมันส่วนเกินเหล่านั้น บวกกับเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้วแต่ไม่ถูกผลัดออกไป ทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน
Step 3 : การอุดตันนั้น ทำให้เกิดสภาวะไร้ออกซิเจนในรูขุมขน ทำให้แบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจนอย่าง P.acne (Propionibacterium acnes) แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวเจริญเติบโตได้ดี
Step 4 : ผิวเกิดการอักเสบ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวตามมา
รูป
ปัจจัยที่ทำให้เกิด “สิว”
สำหรับปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว พบว่ามีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน แบ่งเป็น…
ปัจจัยภายใน
1. ฮอร์โมน
"ฮอร์โมน" โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ในเพศชาย มีส่วนกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จะพบว่าช่วงวัยรุ่น สิวจะเห่อหนักมาก เพราะเป็นช่วงที่มีการผลิตฮอร์โมนมากขึ้น ฮอร์โมนแปรปรวนได้ง่าย
รูป
2. กรรมพันธุ์
"กรรมพันธุ์" หากพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้าง หน้ามัน สิวเห่อขึ้นหน้าบ่อย สิ่งเหล่านี้อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม ตกทอดมายังรุ่นลูก รุ่นหลาน จึงเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวได้ง่าย
รูป
ปัจจัยภายนอก
1. เครื่องสำอาง
"เครื่องสำอาง" ส่วนผสมในเครื่องสำอางบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ และหากทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดี อาจทำให้ส่วนผสมเหล่านั้นอุดตันในรูขุมขนได้
รูป
2. ยาบางชนิด
ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคลมชัก อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น และมีส่วนเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
รูป
3. ของมัน ของทอด ของหวาน
ของมัน ของทอด อย่างพวกอาหาร Fast Food ทั้งหลาย มีส่วนกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวมัน เกิดเป็นสิวได้
ของหวาน ที่ใครหลายคนชื่นชอบ เช่น ชานมไข่มุก เค้ก โดนัท เป็นอาหารที่มีน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ระดับฮอร์โมนอินซูลินก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ก่อให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย รวมทั้งยังกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ
รูป
4. ฝุ่นควันและมลภาวะ
ฝุ่นควันและมลภาวะ เพิ่มโอกาสให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันที่รูขุมขน เกิดเป็นสิวได้
รูป
5. พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมบางอย่าง เช่น
เครียดสะสม ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดที่เรียกว่า “Cortisol” ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น จนเกิดเป็นสิวในที่สุด
นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานลดลง มีเวลาในการฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวน้อยลง และถ้าใครเป็นสิวอยู่แล้ว หากอดนอนเป็นประจำ จะพบว่าสิวยิ่งเห่อมากขึ้นไปอีก
รูป
ดูแลยังไง…ในวันที่เป็นสิว?
หากไม่อยากให้สิวเห่อไปมากกว่านี้ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหาวิธีดูแลรักษาควบคู่ไปด้วย เช่น
ไม่แกะหรือบีบสิว เพราะจะทำให้แบคทีเรียกระจายตัว และก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นไปอีก
เช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาดหมดจด
พักผ่อนให้เพียงพอ ควรเข้านอนก่อน 22:00 น. หรือก่อน 24:00 น. และพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชม. โดยช่วงเวลา 22:00 น. - 02.00 น. ร่างกายจะมีการผลิตและซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่
ลดการทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
ใช้เซรั่มหรือเจลแต้วสิว ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติอย่างพรีไบโอติก วิตามินซี สารสกัดพลูคาว กรดซาลิไซลิก LHA ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้สิวยุบไว ป้องกันการเกิดสิวใหม่ ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ขับถ่ายคล่อง ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ ก็ถือเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หน้าใส ไกลสิวได้อีกด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก...
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงพยาบาลพญาไท
SkinX Team
idskinexpert
3 May 2024
11 Sep 2024