Last updated: 23 ก.ย. 2567 |
“อยากผิวขาวใสมีออร่า ต้องทาครีมแบบไหน เลือกใช้ส่วนผสมอะไรดี?” วันนี้ Merci จะมาแชร์สุดยอดสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้อย่างปลอดภัย จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!
เริ่มที่ตัวแรกกันเลย นั่นก็คือ “วิตามินซี” สารสกัดตัวดังที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวพรรณที่เชื่อว่าทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยวิตามินซีนั้นมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียน ทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ รวมถึงป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย
จากงานวิจัยพบว่า วิตามินซีมีฤทธิ์ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส โดยไปยั้บยังการผลิตเอนไซม์ Tyrosinase (เอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน) ส่งผลให้การผลิตเม็ดสีเมลานินบนชั้นผิวลดลงนั่นเอง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรมหัศจรรย์ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในการนำมาใช้พอกผิวหลังออกแดดจัด หรือรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แต่รู้ไหมว่า? ว่านหางจระเข้ยังมีฤทธิ์ช่วยบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย
ว่านหางจระเข้มีสารชื่อว่า “Aloesin” ซึ่งมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase (เอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน) จึงช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ พร้อมช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มเหมือนผิวเด็ก
ใครจะไปคิดใช่ไหมว่าเจ้าแพลงก์ตอน สัตว์ตัวจิ๋วที่อาศัยอยู่ในน้ำที่เราเคยได้ยินชื่อกันนั้น จะช่วยบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ แต่นั่นถือเป็นประโยชน์สุดว้าวมาก ๆ เพราะสารสกัดจากแพลงก์ตอน ช่วยปรับผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้
นอกจากนี้ สารสกัดจากแพลงก์ตอนยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ทั้งยังช่วยลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าประโยชน์ครบครัน จัดเต็มมาก ๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวส่วนใหญ่ จะมีส่วนผสมของสารสกัดจากแพลงก์ตอนอยู่ด้วย
"วิตามินอี" ส่วนผสมยอดฮิตที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ Skincare มีคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase (เอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน) นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องการลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สร้างเกราะป้องกันให้เซลล์ผิว
หาก “วิตามินอีทำงานร่วมกับวิตามินซี” จะเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
วิตามินบี 3 หรือไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เปรียบเสมือนฮีโร่ของผิว เรียกได้ว่าสรรพคุณครอบจักรวาลมาก โดยวิตามินบี 3 จะโดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น
นอกจากนี้ วิตามินบี 3 ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย จึงเหมาะมาก ๆ กับคนที่มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือมีรอยดำรอยแดงจากสิว
“อาร์บูติน” พบมากในผลไม้จำพวกเบอร์รี่อย่างแบร์เบอร์รี่ (Bearberry) บลูเบอร์รี่ (Blueberry) แครนเบอร์รี่ (Cranberry) มัลเบอร์รี่ (Mulberry) โดยอาร์บูตินมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase (เอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน) และมีส่วนช่วยลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้น
"อาร์บูติน" มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส เทียบเท่ากับ Hydroquinone (สารเคมีที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในครีมหน้าขาว) แต่มีความปลอดภัยสูงกว่ามาก เนื่องจากเป็นพิษต่อเซลล์ผิวหนังน้อยกว่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการนำอาร์บูตินมาใช้ในวงการ Skincare กันมากขึ้น
น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน อีกหนึ่งตัวช่วยบำรุงผิวจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยสารสำคัญอย่างกรดไขมันโอเมกา-6 (Omega-6 fatty acid) กรดลิโนเลอิก (Linoleic acid) และวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี
น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมเกาะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทั้งยังช่วยชะลออายุผิวไม่ให้แก่ก่อนวัยได้อีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับสารสกัดตัวดังทั้ง 7 ตัว ที่ทาง Merci คัดสรรมาให้ในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละตัวนั้นมีประโยชน์ต่อผิวของเรามากจริง ๆ รู้แบบนี้แล้ว อยากให้ทุกคนลองพลิกส่วนผสมหลังกล่องกันดูหน่อย ว่ามีสารเหล่านี้อยู่บ้างไหม ถ้ามีก็ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะ ผิวของเราจะได้สวยใส มีออร่า ไม่ดรอป ไม่คล้ำแน่นอนค่า
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก...
11 ก.ย. 2567
11 ก.ย. 2567
3 พ.ค. 2567